ข้อมูล
ขั้นต้น
รังนก
เป็นอาหารเสริม
สุขภาพหรือบำรุงร่างกายชนิดหนึ่งที่นิยมแพร่หลายในหมู่ชาวจีนและกลุ่มคนที่มีฐานะดี
ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นอาหารฟังก์ชัน
โดยในอดีตนั้นรังนกนางแอ่นที่ต้มกับน้ำตาลกรวดได้รับการยกย่องว่าเป็นอาหารบำรุงชั้นยอดของฮ่องเต้
ตลอดจนกลุ่มชนชั้นสูงของจีน วัฒนธรรมการรับประทานรังนกในประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
ไทย ญี่ปุ่น สิงคโปร์และ ประเทศอื่นๆ
พลอยได้รับวัฒนธรรมนี้ถ่ายทอดจากชาวจีนด้วยและยังพบหลักฐานว่าในสมัยราชวงค์หมิงตอนปลายนั้น
เมื่อแพทย์เขียนใบสั่งยามักจะมีรังนกเป็นส่วนผสมเสมอ เพราะแพทย์จีนเชื่อว่ารังนกสามารถรักษาโรคทางเดินหายใจ
ช่วยบำรุงสุขภาพเด็ก สตรีและคนชรา
ช่วยบำรุงผิวพรรณของสตรีให้มีความนุ่มนวลอ่อนเยาว์ ช่วยบำรุงปิดและเลือด
และช่วยบำรุงสุขภาพของผู้ป่วยในระยะพักฟื้นรวมทั้งสตรีหลังคลอดบุตร
รังนก
เป็นผลิตผลที่ได้จากน้ำลายของนกแอ่นกินรัง ซึ่งอยู่ในกลุ่มนกแอ่นสวิฟต์เลต (Swiftlet) ซึ่งเป็นกลุ่มนกแอ่นที่ทำรังด้วยน้ำลายซึ่งนำรังมากินได้ รังนก
เป็นผลิตผลที่ได้จากน้ำลายของนกแอ่นกินรัง ซึ่งอยู่ในกลุ่มนกแอ่นสวิฟต์เลต (Swiftlet)
ซึ่งเป็นกลุ่มนกแอ่นที่ทำรังด้วยน้ำลายซึ่งนำรังมากินได้
รังนกที่สร้างในครั้งแรกจะสร้างจากน้ำลายล้วนๆ รังนกจะมีลักษณะมีสีขาว
เป็นเส้นยาวถือเป็นรังที่สมบูรณ์ที่สุด ทำให้มีราคาแพง ในปี พ.ศ. 2534 ราคารังนกดิบของไทยกิโลกรัมละ 25,000 บาท ต่อมาปี พ.ศ.
2537 ราคาได้เพิ่มเป็น 50,000 บาท และพุ่งขึ้นเป็น
2-3 เท่าเมื่อมีการส่งออกไปยังสิงคโปร์ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา
และปี พ.ศ. 2539
รังนกดิบในประเทศไทยราคาได้เพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 70,000
บาท
เนื่องจากรังนกมีผู้สนใจรับประทานกันมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย จึงมีธุรกิจการทำรังนกเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปออกจำหน่าย
เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการบริโภค เช่น เครื่องดื่มรังนกแท้
เครื่องดื่มรังนกผสมโสม
ในการผลิตเครื่องดื่มรังนกสำเร็จรูปพร้อมดื่มโดยส่วนใหญ่
มีขั้นตอนคร่าวๆ คือ นำรังนกแห้งมาทำความสะอาด กำจัดขน และสิ่งแปลกปลอมออกให้หมด
หลังจากนั้นจึงตุ๋นต้มรังนกกับน้ำ เติมน้ำตาลกรวด ต่อจากนั้นจึงนำไปแบ่งบรรจุใส่ขวดแล้วนำไปฆ่าเชื้อด้วยระบบสเตอริไรด์เซชั่น
สรรพคุณเกี่ยวกับรังนก
การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับประโยชน์ของรังนกมีดังนี้
-ในรังนก มีสารที่มีฤทธิ์คล้ายกับ Epidermal growth factor (EGF) ซึ่งมีคุณสมบัติ กระตุ้นให้เซลเม็ดเลือดขาวชื่อ Leucocyte ที่ซึ่งทำหน้าที่ในการปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคต่างๆ
ซึ่งเพราะเลี้ยงในหลอดทดลอง เกิดการแบ่งตัว
ในสารสกัดที่ได้จากรังนกประกอบด้วย
Epidermal
growth factor (EGF) ซึ่งมีองค์ประกอบเหมือนกับ EGF ที่มีอยู่ในคน ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์ชั้นนอกสุด
และเยื่อบุต่างๆ การทดลองนี้เป็นการศึกษาเบื้องต้น
โดยได้มีการทำให้สารสกัดให้บริสุทธิ์ เพื่อนำสารสกัดไปพัฒนาใช้ประโยชน์ด้านสุขภาพต่อไป
-จากความเชื่อในประโยชน์ด้านการรักษาโรคต่างๆของรังนก
ทำให้มีการศึกษาองค์ประกอบของรังนกและพบว่า
ไกลโคโปรตีนในรังนกช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
โดยช่วยเพิ่มการทำงานของเซลเม็ดเลือดขาว ที่ชื่อ Monocyte ซึ่งทำหน้าที่ช่วยปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคต่างๆ
-
จากความพยายามในการศึกษากลุ่มคาร์โบไฮเดรต
ที่แยกได้จากไกลโคโปรตีนที่พบได้ในรังนก พบว่ามี 2
ชนิดที่เกี่ยวข้องคือ กลูโคซามีน (Glucosamine) และครอนโดซามีน
(chondrosamin).
-
การศึกษาในระดับโมเลกุลพบว่า ไกลโคโปรตีน
ที่ผลิตจากต่อมน้ำลายของนกแอ่นกินรัง มีโครงสร้างที่ประกอบไปด้วย
ไกลโคโปรตีนที่มีกรด sialic ส่วนประกอบหลัก กรด silica
เป็นสารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่เป็น องค์ประกอบของ gaglioside
ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบสมอง (Structure of the
Monosialyl Oligosaccharides Derived from Salivary Gland Mucin Glycoproteins of
the Chinese Swiftlet
-
Nakagawa H และคณะนักวิจัยจาก Tulane University Health
Sciences Center School of Medicine, New
Orleans ประเทศสหรัฐอเมริกา
ได้ค้นพบว่าไกลโคโปรตีนในรังนก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มของ nonsulfated
chondroitin glycosaminoglycans(GAGs).
-
ศึกษาองค์ประกอบของรังนกพบว่า รังนกประกอบด้วยโปรตีน ประมาณ 61.5 กรัมต่อ 100 กรัม แร่ธาตุหลัก 4 ชนิดที่พบได้ในรังนกคือ แคลเซียม โซเดียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม และมี sialic
acid ประมาณ 0.7-1.5% ปริมาณสารอาหารในรังนก
จะแตกต่างกันไปตามฤดูเก็บเกี่ยวและสถานที่ทำรัง
-
ไกลโคโปรตีนในรังนก อุดมไปด้วยกรดอะมิโน เซอรีน ทรีโอนีน และโปรลีน
-
คณะนักวิจัยจาก ประเทศญี่ปุ่น ได้พิสูจน์
และค้นพบกลไกลเสริมภูมิคุ้มกันของรังนก โดยนักวิจัยได้เตรียมตัวอย่างรังนก โดยเลียนแบบกระบวนการผลิต
และการย่อยอาหารของมนุษย์ ก่อนจะนำตัวอย่างที่ได้ไปทดสอบประสิทธิภาพ
นักวิจัยพบว่ารังนกมีฤทธิ์ยับยั้งการติดเชื้อไวรัส
โดยโปรตีนแบบพิเศษที่มีในรังนกจะไปจับเชื้อไวรัสและยับยั้งการเกิด hemagglutination
ที่จำเป็นในการเพิ่มจำนวนเชื้อไวรัส จึงช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้หลายชนิด
ทั้งไวรัสที่มีในคน เป็น และหมู ท้ายสุดผู้วิจัยได้สรุปผลว่า
รังนกเป็นอาหารที่ปลอดภัย
และมีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้
-ต่อเนื่องจากการศึกษาที่พบว่า
สารสกัดจากรังนกมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการติดต่อเชื้อไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นผลมาจาก O-
or N-glycoconjugates การศึกษานี้พบว่า โครงสร้างที่มีกรด sialic
เป็นตัวหลัก เป็นตัวทำให้เกิดผลในการต้านไวรัสดังกล่าวได้ คนจีนทั้งแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง นิยมบริโภครังนกเป็นชีวิตจิตใจ
มีการค้นพบว่า ในสมัยราชวงศ์หมิงตอนปลาย ได้ปรากฏว่า มีแพทย์เขียนใบสั่งยา
โดยมีรังนกเป็นส่วนผสม โดยเชื่อว่า รังนกสามารถรักษาโรคทางเดินหายใจ
ช่วยบำรุงสุขภาพเด็กที่ร่างกายไม่แข็งแรงได้ดี
-เครื่องยาจีนสำหรับบำรุงปอด ชื่อ รังนกเก๋ากี้ (เก๋ากี้เอี้ยงออ)
มีส่วนผสมของรังนก 5 กรัม เก๋ากี้ 10 กรัม น้ำตาลกรวด 50 กรัม กินทุกเช้าเย็น
ครั้งละหนึ่งถ้วย มีสรรพคุณ ช่วยบำรุงปอด ตับ และไต
เสริมประสิทธิภาพบำรุงปอดได้ดีมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ปอดอ่อนแอ ไอแห้ง
หรือหลอดลมอักเสบเรื้อรัง มีอาการร้อนขึ้นในตอนบ่าย ร่างกายอ่อนแอ
เหงื่อออกผิดปกติขณะหลับ ผู้ป่วยวัณโรคในระยะพักฟื้น
-ศ.ดร. หยุน เฉิน กง แห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกง
เป็นนักวิจัยที่เกี่ยวกับสมุนไพรจีนและยาที่ทำจากสัตว์ ได้ค้นพบว่า
รังนกเป็นโปรตีนที่สามารถละลายน้ำได้ ซึ่งเชื่อกันว่า
สามารถส่งเสริมเซลล์ภายในระบบภูมิคุ้มกันโรคได้
และเป็นไปได้ที่จะใช้มันต้านสารเสพติด AZT และสามารถต่อต้านภูมิคุ้มกันบกพร่องในโรคเอดส์ได้
(Eric Valli and Diane Summers, Shadow Hunters (Singapore: Sun tree
publishing limited,1990)
-นิสา พงศ์ชู นักสัตววิทยาของไทย
ได้สรุปผลจากการตรวจสอบสารประกอบที่สกัดได้จากรังนกนางแอ่นพบว่า สารประกอบดังกล่าวมีคุณสมบัติเป็นตัวยับยั้งHaemagglutinationซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดไข้หวัดใหญ่ ได้อย่ามีประสิทธิภาพ
-การวิเคราะห์คุณภาพรังนกนางแอ่นของ Quate(1952) พบว่า
จากรังนก100 กรัม ปรากฎว่ามี โปรตีนร้อยละ 54 คาร์โบรไฮเดรต ร้อยละ 23.3 น้ำร้อยละ16.2 ไขมันร้อยละ 0.3 และอื่นๆ อีกร้อยละ 5.9 ซึ่งรวมถึงฟอสฟอรัส 32
มิลลิกรัมสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโยลีแห่งประเทศไทย
ได้ทำการวิเคราะห์หาส่วนผสมของรังนกนางแอ่น พบว่า ประกอบด้วยโปรตีนร้อยละ 60.90 แคลเซียม ร้อยละ 0.85 น้ำร้อยละ5.11 โพแทสเซี่ยมร้อยละ 0.05 และฟอสฟอรัส ร้อยละ 0.03 ซึ่งสารแต่ละชนิดต่างก็มีคุณค่าทางโภชนาการทั้งสิ้น
อาชีพที่มากับรังนก
นิตยสารไทม์ส ฉบับเดือน ก.ค. ปี 2009 ตีพิมพ์ข้อเขียนของ Andrew Marshall ระบุว่า
การเก็บรังนกนางแอ่นกำลังเป็นอาชีพที่บูมอย่างมาก
โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ของรังนกนางแอ่น
การเก็บรังนกในประเทศไทยนั้น
พบว่ามีระบบสัมปทานรังนกมาตั้งแต่สมัยอยุธยา
เป็นเครื่องมือในการควบคุมปริมาณการเก็บรังนก
ซึ่งช่วยอนุรักษ์พันธุ์นกแอ่นกินรังให้อยู่รอดปลอดภัยตลอดมา
โดยปัจจุบันมีกฎหมายกำหนดให้เก็บรังนกได้ไม่เกินปีละ 3
ครั้ง ผู้รับสัมปทานจะต้องจัดการเก็บรังให้ สอดคล้องกับวงจรชีวิตของนก คือเก็บรังก่อนที่นกจะวางไข่
เก็บครั้งแรกในเดือนมีนาคม ครั้งที่ 2 ในเดือนพฤษภาคม
จากนั้นปล่อยให้นกทำรังและวางไข่ จนกระทั่งลูกนกฟักออกมาและเติบโต
จึงเข้าเก็บรังครั้งสุดท้ายในเดือนสิงหาคม และไม่เข้าไปในถ้ำอีกจนกว่าจะถึงฤดูกาลเก็บรังนกปีต่อไป
และในปัจจุบัน
เนื่องจากความต้องการรังที่มากขึ้นประกอบกับเหตุผลบางประการ
1.นกถูกมนุษย์รบกวนบนเกาะสัมปทาน เช่น การถูกเก็บรังนกไปแม้ในรังจะมีไข่
หรือมีลูกอ่อน จึงอาจจะทำให้นกสะเทือนใจแล้วอพยพหนีจากถ้ำจากเกาะในทะเล มาสู่เมือง
2.นกล้นเกาะ ก็เป็นเรื่องขาดปัจจัยสี่เหมือนกับคน
เมื่อที่อยู่ในถ้ำโดยเฉพาะพื้นที่ผนังเต็ม นกก็ต้องหาที่ทำรังหาที่วางไข่ใหม่
พอบินแวะเวียนมาหากินในเมืองผ่านเข้ามาแถวตึกร้าง ก็เลยเข้าไปสำรวจ เมื่อเห็นว่า
สภาพแวดล้อมพอใช้ได้ประกอบกับในภาวะที่ปวดท้องจะออกไข่ ก็เลยจำเป็นต้องสร้างรัง
พอมีลูกหลานออกมาก็เลยเป็นฝูงใหญ่ขึ้นตามกาลเวลา
คนเรามีความฉลาดก็เลยดัดแปลงบ้านหลังนั้นให้นกอยู่ซะเลย
ส่วนบ้านใกล้เคียงเมื่อเห็นเพื่อนบ้านที่มีนกมาอยู่รวยขึ้นทุกเดือนๆ
ก็เลยสร้างบ้านขึ้นใหม่ แล้วเรียกนกเข้าบ้านตนเองบ้าง บ้านนกจึงขยายตัวออกไปเรื่อยๆ
3.นกรู้สึกปลอดภัยเมื่อมาอยู่บ้าน เพราะว่า คนที่ทำบ้านรังนก
เขาจะเก็บรังนกอย่าระมัดระวังครับ รังนกเปรียบเสมือนสมบัติที่ล้ำค่าประดุจทองคำขาว
ทุกอย่างเขาจะมองระยะยาว เขาพยายามที่สุดที่จะเอาอกเอาใจให้นกเข้ามาอยู่ในบ้าน
และต้องอยู่กับเขาอย่างมีความสุข รู้สึกปลอดภัย เพื่อให้ได้รังผลผลิตที่ดี
ดังจะเห็นได้ว่า นกนางแอ่นจะไม่กลัวคน คนจะเข้าไปในบ้านนก นกก็ไม่หนี
บางตัวก็กกไข่หน้าตาเฉย หรือบางบ้าน คนกับนกอยู่ด้วยกันแค่มีกระจกหรือผนังปูนกั้น
หรืออยู่กันคนละชั้นโดยคนอยู่ชั้นล่างนกอยู่ชั้นบนเท่านั้นเอง
โดยได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยไม่ว่าจะเป็น
เครื่องจำลองเสียงนกนางแอ่นเพื่อเรียกนกเข้ามาอยู่อาศัย
สถานที่ผลิต
รังนกในไทย
สำหรับในเมืองไทยนั้น
มีนกนางแอ่นสามชนิดด้วยกัน คือ นกแอ่นกินรัง นกแอ่นกินรังตะโพกขาว
และนกแอ่นหางสี่เหลี่ยมหรือนกแอ่นรังดำ นกนางแอ่นสองชนิดแรกนั้น จะให้รังนกสีขาว
ส่วนชนิดหลัง จะให้รังสีดำ โดยที่รังจะมีขนนกเป็นส่วนผสมด้วย
แต่ทั้งสามชนิดนั้นสามารถใช้รับประทานได้
ตัวอย่างแหล่งรังนกในประเทศไทย
1. อุทยานชุมชนเกาะไข่ ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 6 บ้านบ่อเมา
ตำบลชุมโค อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เป็นเกาะที่เงียบสงบ คงความเป็นธรรมชาติ
เป็นแหล่งชมปะการังน้ำตื้นนานาชนิด มีถ้ำชมค้างคาว รังนกอีแอ่น และปูไก่
อยู่ห่างจากชายฝั่ง ระยะทาง 4.5 กิโลเมตร
2. เกาะสี่ เกาะห้า เป็นหมู่เกาะหินปูนอยู่ในทะเลสาบสงขลา สภาพภูมิประเทศทั่วไปเป็นเนินเขาเนื้อที่รวมทั้งหมดประมาณ
1,400
ไร่ ปัจจุบันอยู่ในเขตการปกครองของ
ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ห่างจากเกาะหมากไปทางทิศตะวันตกประมาณ 1.6 กิโลเมตร ตามเกาะต่างๆ มีโพรงถ้ำอยู่มากมาย ถ้ำเหล่านี้เป็นที่อยู่อาศัยของนกอีแอ่น
รังนกถือว่ามีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากหมู่เกาะนี้ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ
ทำให้รังนกขาวสะอาด และมีขนาดใหญ่ เกาะสี่ เกาะห้า
จึงเป็นแหล่งที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจอีกหนึ่งแห่งของประเทศไทย
ความเชื่อเกี่ยวกับนกนางแอ่น
คนไทยภาคใต้ทั่วไป
นกนางแอ่นเป็นนกกินลม ได้อาหารบำรุงกำลังจากอากาศ น้ำลายที่ใช้สร้างรังเป็นสิ่งบริสุทธิ์
เจ้าของคอนโดนกแถวปากพนัง
นกนางแอ่นกินรังเป็นสัตว์ยิ่งใหญ่ที่ต้องเคารพยำเกรงและมีพลานุภาพเช่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถจะดลบันดาลให้เกิดทั้งสิ่งที่เป็นคุณและโทษกับคนที่ไปมีส่วนสัมพันธ์ด้วย ก่อนเก็บรังนกแต่ละครั้งจะมีการอธิษฐาน หรือ “กาดขออภัยและขอรัง”กับพ่อนกและแม่นกนางแอ่นอันลี้ลับ
ผู้เป็นเจ้าของนกนางแอ่นทั้งมวลเสียก่อน
คนไทยอิสลามฝั่งอันดามันส่วนหนึ่ง
นกนางแอ่นกินรังถือกำเนิดออกมาจากเหงื่อของผู้นำศาสนาองค์หนึ่ง คือ นบี
อิบรอฮีม
โดยก่อนที่จะออกมานกนางแอ่นได้สัญญากับ นบี อิบรอฮีม
ว่าจะช่วยเหลือและรับใช้มนุษย์
คือให้มนุษย์กินรังของมันเป็นอาหารพร้อมกับที่ นบี อิบรอฮีม
ก็ได้สั่งไม่ให้มนุษย์ไปทำร้ายหรือกินตัวนกนางแอ่น
จา
โคบุส บอนติอุส นักเดินทางชาวยุโรป
รังนกนางแอ่นทำจากฟองมหาสมุทร
คนจีน
รังนกนางแอ่นเป็นยาอายุวัฒนะ
นกนางแอ่นเป็นสัตว์มงคล
เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับ
รังนก
ภาพ1 - เป็นภาพรังนกอีแอ่นที่พ่อแม่นกทำขึ้นเป็นครั้งแรกจะขาวใส สะอาด
ภาพ2 - เป็นรังนกที่พ่อแม่นกทำเป็นครั้งที่สาม
ซึ่งมักจะเป็นลมหายใจสุดท้ายของนกอีแอ่น คือขากน้ำลายและเสลดออกมาจนเป็นเลือด
เพื่อให้ลูกตนเองได้อยู่อาศัย เพราะรังที่สร้างถูกขโมยไปแล้วถึงสองรัง
นกถูกนำธรรมชาติแห่งความรักของพ่อแม่มาบีบคั้นให้สร้างรังครั้งแล้วครั้ง เล่า
จนหมดแรงและตายลงพร้อมด้วยลูกในท้อง บางตัวถึงกับกระอักเลือดตายทั้งที่เลือดกลบปาก
ภาพ3 - เป็นรังที่ไม่สมบูรณ์ เพราะพ่อแม่หมดแรงสร้างรังที่ดีและอบอุ่น
ลูกนกไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายแม้ออกจากไข่ได้ ก็ตายอยู่ดี
ภาพ4 - ซากนกนางแอ่นที่ตกมาตายหลังจากถูกขโมยรังแล้วรังเล่าไปให้คนกินบำรุงร่างกาย
ตายเพราะสำรอกนำลายออกมาทำรังมากเกินไป จนเส้นเลือดแตก
เลือดไหลไม่หยุดตายจากการเสียเลือด
บทวิเคราะห์
จากการที่กล่าวไปข้างต้นเกี่ยวกับรังนกซึ่งเป็นอาหาร
ชนิดหนึ่งซึ่งมีอยู่ในเยาวราช โดยมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการที่สร้างอาชีพให้มนุษย์
และ เป็นยารักษาโรคซึ่งเมื่อพิจารณารังนกแล้วจากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่ามีความเกี่ยวข้องกับ
นิเวศวิทยามนุษย์ โดยที่
การดำรงชีวิตของมนุษย์บนโลกจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีชีวิต
การตักตวงและคิดว่าทรัพยากรและระบบนิเวศเป็นของฟรีทำให้เกิดปัญหาและผลกระทบ
ซึ่งนำมาต่อการทำลายความหลากหลายทางชีวภาพซึ่งถือว่าเป็น การทำลายทุนทางชีวภาพ
ซึ่งเกิดจากการสูญพันธ์ของ บรรดาสัตว์ต่างๆทั่วโลกเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจขึ้น
หากเราจะต้องรักษาสมดุลของธรรมชาติด้วยการที่ปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตใช้การดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน
โดยคำนึงถึงการจัดการทรัพยากรเพื่อให้ได้ผลผลิตอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับการอนุรักษ์และปรับปรุงทรัพยากรได้ตลอดเวลา
โดยที่เราเก็บรังนกตามธรรมชาติก็ควรรอให้ถึงฤดูกาลและความเหมาะสม
ถ้าเป็นการทำตึกรังนกก็ควรทำให้พอดีกับพื้นที่เพราะอาจเกิดการหนาแน่นของนกจนรบกวนการอาศัยอยู่ขิงคนเนื่องจากตึกนั้นเสียงดังมากและอาจทำให้พฤติกรรมของนกเปลี่ยนมาอาศัยจากถ้ำสู่เมืองหากมีการสร้างตึกรังนกที่มากเกินไป
ดังนั้นในการดำเนินธุรกิจรังนกจึงควรทำให้ยั่งยืนโดยคำนึงถึงธรรมชาติมากกว่าผลประโยชน์
อ้างอิง
http://www.hong-teh.com/index.asp?catid=2&contentID=10000004&getarticle=20&title=%CA%C3%C3%BE%A4%D8%B3%A2%CD%A7%C3%D1%A7%B9%A1%B9%D2%A7%E1%CD%E8%B9+
จัดทำโดย
นนร.สิทธิวุฒิ ศรีระวัตร ชั้นปีที่ ๒ ตอน สศ.๑ เลขที่ ๑
ที่ปรึกษา
ร.อ.ฐนัส มานุวงศ์
บล็อคนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา นิเวศวิทยามนุษย์
กองวิชากฏหมายและสังคมศาสตร์ ส่วนการศึกษา
โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
ลิงค์อื่นๆ จากวิดิทัศน์ "1 วันในเยาวราช"
เรื่อง "ย่านเยาวราชภายใต้ร่มพระบารมี"
http://qillpid.blogspot.com /
เรื่อง "วัดสำคัญในย่านเยาวราช"
http://crmasocialscience.blogspot.com/
เรื่อง "ถนนเยาวราช ถนนมังกร"
http://tanyarangsributh.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น